อาการ “ท้องผูก” เป็นปัญหาที่คนส่วนมากมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะคิดว่าแค่กินยาระบายก็ทำให้ถ่ายได้แล้ว ดังนั้นพอเป็นอีกก็กินยาอีกไปเรื่อยๆ แต่หารู้ไม่ว่า…หากกินยาช่วยถ่ายแบบนี้เป็นประจำ นอกจากโรคท้องผูกจะไม่หายแล้ว ยังอาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายตามมาอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
โดยปกติคนเราจะถ่ายอุจจาระอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถ้าถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์หรือมีอาการถ่ายยากติดต่อกันนานเป็นเดือน อาจบ่งชี้ได้ว่าเรามี “ภาวะท้องผูกเรื้อรัง” ทั้งนี้ ตามความเป็นจริงแล้ว อาการท้องผูกของแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรวัดเดียวกัน และไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนครั้ง หรือความสม่ำเสมอในการขับถ่ายเสมอไป ตราบใดที่เรายังสามารถขับถ่ายได้อย่างสบาย ไร้ปัญหา ไม่ต้องเบ่ง และอุจจาระมีลักษณะนิ่มจับตัวเป็นก้อนดี แม้จะถ่ายไม่สม่ำเสมอก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
ภาวะ “ท้องผูก” ของบางคน อาจจะถ่ายลำบาก ต้องเบ่งถ่าย มีอุจจาระแข็ง หรือบางคนอาจจะนานๆ ถ่ายที ซึ่งทั้งหมดนี้คือภาวะท้องผูก แต่หากมีอาการแค่ 2-3 วัน อาจเป็นแค่ “ภาวะท้องผูกฉับพลัน” ที่มักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต เช่น ความเจ็บป่วย การกินยา การเดินทาง หรือไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย ภาวะนี้เพียงแค่ปรับการใช้ชีวิต ทานผักผลไม้ให้มากขึ้น หมั่นออกกำลังกาย หรือสามารถซื้อยาระบายมารับประทานเพื่อบรรเทาอาการได้ แต่หากมีอาการนานเป็นเดือนหรือนานเป็นปี นั่นคือ “ภาวะท้องผูกเรื้อรัง” ซึ่งควรเข้ารับการรักษาและต้องพบแพทย์เฉพาะทางด้านระบบทางเดินอาหารและตับจะดีที่สุด
อาการท้องผูกในทางการแพทย์ คือกลุ่มอาการต่างๆ ดังนี้
ถ้าไม่อยากทรมานกับ “อาการท้องผูกเรื้อรัง” เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง ก็ช่วยให้เราสามารถขับถ่ายได้ดีขึ้น
ใครก็ตามที่มีความผิดปกติในเรื่องระบบการขับถ่าย ให้รีบมาพบแพทย์เฉพาะทางทันที เพื่อรับการตรวจ วินิจฉัย และทำการรักษาอย่างถูกต้องตรงสาเหตุ เพราะหากปล่อยไว้นานๆ อาจเกิดโรคร้ายแรงแทรกซ้อนขึ้นมาได้
“การขับถ่าย” ถือเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตประจำวัน หากเรามีการขับถ่ายที่ดี ก็จะช่วยให้ในแต่ละวันของเราสดใส สบายท้องไปทั้งวัน
ขอขอบคุณบทความจาก : นพ.อุดมรัช โกวิททวิพัฒน์ โรงพยาบาลพญาไท นวมินทร์